แก้ปัญหาสิวด้วยยาคุม ทางลัดหรือทางเสี่ยง?

21 จำนวนผู้เข้าชม  | 

แก้ปัญหาสิวด้วยยาคุม ทางลัดหรือทางเสี่ยง?

แก้ปัญหาสิวด้วยยาคุม ทางลัดหรือทางเสี่ยง?




แล้วถ้าไม่อยากเป็นสิว ควรทำโปรแกรมความงามอะไรดี ?

          ใครที่กำลังต่อสู้กับปัญหาสิวแบบไม่รู้จบ ลองมาหลายวิธีทั้งสกินแคร์สูตรต่าง ๆ เปลี่ยนไลฟ์สไตล์ กินอาหารเสริม แต่สิวยังไม่หายสักที จนได้ยินมาว่า "กินยาคุมช่วยลดสิวได้" หลายคนอาจสงสัยว่าวิธีนี้ได้ผลจริงไหม และเหมาะกับทุกคนหรือเปล่า? วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกัน!



ยาคุมช่วยลดสิวได้จริงหรือ ?

          จริง ! แต่ไม่ใช่ทุกกรณีครับ ยาคุมกำเนิดบางประเภท (โดยเฉพาะยาคุมแบบฮอร์โมนรวม) สามารถช่วยลดสิวได้ เพราะมีส่วนช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนเพศหญิง ลดการหลั่งน้ำมันบนผิว ซึ่งเป็นตัวการกระตุ้นสิว แต่… การกินยาคุมเพื่อรักษาสิวไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสำหรับทุก ๆ คน และ ข้อควรระวังคือไม่ควรซื้อกินเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์เด็ดขาดครับ !



ยาคุมลดสิวได้ยังไง ?
          สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เกิดสิวฮอร์โมน คือ ฮอร์โมนแอนโดรเจน (Androgen) ที่ไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป พอมีน้ำมันเยอะ สิ่งสกปรกก็สะสมง่าย ทำให้เกิดสิวอุดตันและสิวอักเสบตามมา

          ยาคุมกำเนิดบางประเภท มีส่วนผสมของฮอร์โมนที่ช่วยลดระดับแอนโดรเจนในร่างกาย ทำให้ต่อมไขมันทำงานลดลง ผิวจึงมันน้อยลง ส่งผลให้สิวลดลงไปด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะกินแล้วได้ผลเหมือนกัน และไม่ใช่ยาคุมทุกตัวที่จะช่วยเรื่องสิวได้ ต้องเลือกให้ถูกประเภทด้วย




แล้วถ้ากินยาคุมเพื่อลดสิวนาน ๆ อันตรายมั้ย ?

          ขึ้นอยู่กับร่างกายของแต่ละคนและการเลือกใช้ยาให้เหมาะสม การกินยาคุมกำเนิดเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อร่างกายในบางด้าน ซึ่งควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจใช้ต่อเนื่อง

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นเมื่อกินยาคุมต่อเนื่องเป็นเวลานาน
1. เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดตัน
          ยาคุมบางชนิดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดลิ่มเลือด ซึ่งหากลิ่มเลือดไปอุดตันที่หลอดเลือดหัวใจหรือปอด อาจเป็นอันตรายได้ ความเสี่ยงนี้สูงขึ้นหากมีปัจจัยร่วม เช่น สูบบุหรี่ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด

2. ฮอร์โมนแปรปรวน
          การได้รับฮอร์โมนจากยาคุมเป็นเวลานาน อาจทำให้ร่างกายเคยชินกับฮอร์โมนสังเคราะห์ พอหยุดยาไป บางคนอาจมีอาการประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือสิวกลับมาเห่อกว่าเดิม

3. น้ำหนักขึ้น-บวมน้ำ
          ยาคุมบางตัวทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำมากขึ้น บางคนอาจรู้สึกว่าตัวบวมขึ้น หรือมีน้ำหนักเพิ่มเล็กน้อย

4. ปวดหัว ไมเกรน

          ฮอร์โมนในยาคุมบางชนิดอาจกระตุ้นให้ปวดหัวบ่อยขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีประวัติปวดไมเกรนอยู่แล้ว

5. มีผลต่อตับและไต
          การใช้ยาฮอร์โมนต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจเพิ่มภาระให้ตับและไต เพราะร่างกายต้องขับฮอร์โมนออกจากระบบตลอดเวลา


ควรกินยาคุม เพื่อลดสิวนานแค่ไหน ?
          โดยทั่วไป ไม่ควรกินยาคุมเพื่อรักษาสิวเป็นระยะเวลานานโดยไม่มีการตรวจสุขภาพหรือคำแนะนำจากแพทย์ผู้มีประสบการณ์ หากต้องการใช้ยาคุมเพื่อเป็นตัวช่วยเรื่องสิว ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ก่อน และติดตามผลสุขภาพเป็นระยะ

 หากต้องการใช้ยาคุมเพื่อรักษาสิว ควรใช้ร่วมกับวิธีดูแลผิวที่เหมาะสม เช่น การล้างหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยลดการอุดตันของรูขุมขน
 ปรับพฤติกรรมการกินและการใช้ชีวิตให้สมดุล เช่น ลดของมัน ของทอด พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ
 หากต้องการหยุดยา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาวิธีที่เหมาะสม ไม่ควรหยุดกินแบบกะทันหัน






ใครสามารถกินยาคุม เพื่อลดสิวได้บ้าง ?
ไม่ใช่ทุกคนที่กินยาคุมแล้วจะได้ผล และบางคนอาจไม่เหมาะกับการใช้ยาคุมลดสิว โดยเฉพาะในกรณีเหล่านี้

 คนที่มีโรคประจำตัวเกี่ยวกับหลอดเลือดหรือหัวใจ
 ผู้ที่มีภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หรือเสี่ยงต่อภาวะนี้
 คนที่มีปัญหาฮอร์โมนผิดปกติบางอย่าง
 ผู้ที่มีปัญหาตับ หรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน





ไม่อยากเป็นสิว ต้องทำยังไง ? โปรแกรมความงามช่วยได้ครับ !
สำหรับคนที่อยาก เคลียร์สิวแบบปลอดภัย ไม่ต้องพึ่งยาคุม มาดูโปรแกรมยอดฮิตที่ ลอตเต้คลินิก กันเลยครับ !

1. โปรแกรม Treatment : บำรุงผิวลึก ลดสิวได้อยู่หมัด
ถ้าคิดว่า Treatment เป็นแค่การบำรุงผิวธรรมดา บอกเลยว่าคิดผิด! เพราะการทำ Treatment ที่ออกแบบมาเพื่อลดสิว ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่ใต้ผิว และช่วยให้ผิวได้รับสารบำรุงอย่างเต็มที่

  ขจัดสิ่งอุดตัน ลดโอกาสเกิดสิวใหม่
  เติมความชุ่มชื้นให้ผิวแข็งแรงขึ้น
  ผิวดูเนียนนุ่มขึ้นหลังทำ

เหมาะกับคนที่เป็นสิวอุดตันบ่อย ๆ หรือแต่งหน้าทุกวัน เพราะช่วยให้ผิวสะอาดล้ำลึก และลดโอกาสเกิดสิวซ้ำ


2. โปรแกรม Pico Laser : ลดรอยสิวเร็ว กระชับรูขุมขน
ปัญหาสิวอาจผ่านไปแล้ว แต่รอยสิวคือสิ่งที่อยู่กับเราไปอีกนาน ถ้าอยากให้รอยแดง รอยดำจางไวขึ้น Pico Laser คืออีกหนึ่งตัวช่วยที่อยากแนะนำ

  ช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว
  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
  กระชับรูขุมขน ลดโอกาสเกิดสิวใหม่

หลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่ผิวจะค่อย ๆ ดีขึ้น เหมาะกับคนที่อยากให้รอยสิวหายไวขึ้น และอยากให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นไปพร้อมกัน


3. โปรแกรม Made Collagen : ดีท็อกซ์ผิว ลดสิวจากภายใน
ถ้าผิวมีสารตกค้างเยอะ ใช้สกินแคร์ตัวไหนก็แพ้โปรแกรม Made Collagen เป็นอีกตัวช่วยที่ช่วยปรับสมดุลผิวจากภายใน ด้วยการฉีดสารบำรุงลึกลงไปเพื่อช่วยดีท็อกซ์ผิว ขับของเสียที่สะสมออกมา

  ลดอาการอักเสบของสิว
  กระตุ้นให้ผิวขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย
  ทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการเกิดสิวซ้ำ

เหมาะกับคนที่เป็นสิวเรื้อรัง ลองใช้สกินแคร์ตัวไหนก็ไม่ดีขึ้น หรือผิวอ่อนแอจากการแพ้สาร


4. โปรแกรม Dermaroller : กู้หลุมสิวให้ผิวเรียบเนียน
สิวหายแล้ว แต่หลุมสิวยังอยู่โปรแกรม Dermaroller เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น ด้วยเทคนิคใช้เข็มเล็ก ๆ กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่ เติมเต็มรอยหลุมสิวให้ตื้นขึ้น

  กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน
  ลดรอยหลุมสิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น
  ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น ดูสดใสขึ้น

หลังทำอาจมีรอยแดงเล็กน้อย แต่ไม่นานผิวจะฟื้นตัวและเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด เหมาะกับคนที่มีหลุมสิวค่อนข้างลึก และอยากให้ผิวกลับมาเรียบเนียนอีกครั้ง


5. โปรแกรมหน้าใสด้วยเกล็ดเลือดตัวเอง : ฟื้นฟูผิวด้วยgd]Hfg]nvfจากร่างกายตัวเอง
โปรแกรมหน้าใสด้วยเกล็ดเลือดตัวเองเป็นวิธีการใช้พลาสมาที่สกัดจากเลือดของเราเอง ฉีดกลับเข้าไปที่ผิวหน้า เพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูของเซลล์ผิว

  กระตุ้นให้ผิวสร้างคอลลาเจนใหม่
  ลดรอยสิว หลุมสิว และทำให้ผิวดูอิ่มฟูขึ้น
  ช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น และลดการเกิดสิวซ้ำ

เหมาะกับคนที่อยากฟื้นฟูผิวให้สุขภาพดีขึ้นจากภายใน และต้องการให้รอยสิว หลุมสิวหายโดยใช้เวลาไม่นาน




          ถ้าสิวของคุณเกิดจากฮอร์โมน ยาคุมอาจช่วยให้ดีขึ้น แต่หากต้องใช้เป็นเวลานาน ควรอยู่ภายใต้คำแนะนำของแพทย์ผู้มีประสบการณ์ เพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น แต่ถ้าอยากแก้ปัญหาสิวให้ตรงจุด และดูแลผิวแบบปลอดภัยขึ้น ลองเข้ามาปรึกษาที่ลอตเต้คลินิก เพื่อให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์ช่วยวิเคราะห์ปัญหาผิวและเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุด สิวหายได้โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก มาเริ่มต้นดูแลผิวไปด้วยกัน!


 




Facebook : https://www.facebook.com/lotteclinic8/
Inbox : m.me/lotteclinic8
Line Official : https://lin.ee/aA680qy
Youtube : youtube.com/c/lotteclinic
Instagram : instagram.com/lotteclinic/
Tiktok : tiktok.com/@lotteclinic
Hotline : 088-555-3421

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้