69 จำนวนผู้เข้าชม |
โกนขนพลาด! คันหนักมาก ต้องรอหายเองไหม หรือมีวิธีแก้?
การโกนขนเป็นวิธีกำจัดขนที่หลายคนเลือกใช้ เพราะทำง่าย ประหยัด และสามารถทำเองได้ที่บ้าน แต่ถึงแม้ผิวจะดูเรียบเนียนหลังโกน ก็ต้องระวังให้ดี เพราะอาจเกิดอาการระคายเคืองได้ง่าย โดยเฉพาะ อาการคัน ผื่นแดง และขนคุด ที่มักจะตามมา หลายคนอาจเคยเจอปัญหา ขนขึ้นเป็นตอ คันยุบยิบจนรำคาญ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยหลังโกนขน แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะวันนี้เรามีวิธีดูแลผิวหลังโกนให้รู้สึกสบายขึ้น พร้อมเคล็ดลับช่วยลดอาการคัน และคำตอบว่ากี่วันถึงหายดี ตามมาดูกันเลย!
โกนขนแล้วคัน! ทำไมเป็นแบบนี้ทุกที มาดูสาเหตุกัน
เคยไหม ? โกนขนเสร็จใหม่ ๆ ผิวยังเนียนนุ่มอยู่ดี ๆ แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง กลับคันยุบยิบ แถมบางทียังมีผื่นแดงขึ้นมาอีก ปัญหานี้ไม่ใช่เรื่องแปลก และหลายคนต้องเคยเจอแน่นอน แล้วทำไมถึงเป็นแบบนี้ ? วันนี้เรามาไขข้อสงสัยกัน
1. ผิวระคายเคืองจากใบมีดโกน
ใบมีดโกนที่ไม่คม หรือการโกนขนแบบรีบ ๆ อาจทำให้ผิวโดนเสียดสีมากเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการแสบ คัน และแดงขึ้นมาได้ โดยเฉพาะถ้าโกนแบบแห้ง ๆ ไม่ใช้ครีมหรือเจลช่วย
2. ขนขึ้นใหม่ ทำให้รู้สึกคัน
หลังโกน ขนใหม่ที่ขึ้นมามักจะมีปลายที่คมและแข็ง ทำให้เวลางอกขึ้นใหม่ อาจรู้สึกคันหรือระคายเคืองมากกว่าปกติ โดยเฉพาะในจุดที่ผิวบอบบาง
3. ผิวแห้งหลังโกน
การโกนขนอาจทำให้ น้ำมันธรรมชาติของผิวถูกล้างออกไปด้วย ส่งผลให้ผิวแห้งและเกิดอาการคันง่ายขึ้น หากไม่ได้บำรุงหลังโกน ก็อาจทำให้รู้สึกไม่สบายผิว
4. อาการแพ้หรือระคายเคืองจากผลิตภัณฑ์ที่ใช้
สบู่ โฟมโกนขน หรือครีมบำรุงบางชนิด อาจมีส่วนผสมที่ทำให้ผิวระคายเคือง โดยเฉพาะถ้ามีแอลกอฮอล์ หรือน้ำหอมที่แรงเกินไป
5. ขนคุด ตัวการที่ทำให้คันและเป็นตุ่มแดง
บางครั้งขนที่ขึ้นใหม่ไม่สามารถทะลุออกมาจากผิวได้ ทำให้เกิด "ขนคุด" ซึ่งอาจมาพร้อมอาการคัน หรือเป็นตุ่มแดงเล็ก ๆ ที่ดูคล้ายสิว
โกนขนแล้วคัน ต้องทนอีกกี่วัน ? มาหาคำตอบกัน
โกนขนเสร็จใหม่ ๆ ผิวเรียบเนียนน่าสัมผัส แต่ผ่านไปไม่ทันไร อาการคันยุบยิบ ผื่นแดง ขนคุด ก็ตามมา จนอยากจะเลิกโกนไปเลย แต่เดี๋ยวก่อน! อาการเหล่านี้ไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป แล้วต้องใช้เวลากี่วันถึงจะหาย? มาดูกันเลย
อาการคันหลังโกนขน กี่วันถึงจะดีขึ้น?
1 - 2 วันแรก : ผิวอาจมีอาการแดง คัน หรือรู้สึกระคายเคือง โดยเฉพาะถ้าโกนแบบแห้ง หรือใบมีดไม่คม
3 - 5 วัน : อาการคันมักจะเริ่มดีขึ้น แต่ถ้าขนเริ่มงอกขึ้นมาใหม่ อาจรู้สึกคันเล็กน้อยจากขนที่กำลังแทงขึ้นจากผิว
7 วันขึ้นไป : อาการคันส่วนใหญ่จะหายไป ผิวกลับมาปกติ ถ้าดูแลผิวดี ก็จะไม่มีปัญหาขนคุดหรือระคายเคืองซ้ำ
สาเหตุอะไรที่ทำให้อาการคันหายช้า ?
ใช้ใบมีดโกนที่ไม่คม ทำให้เกิดการเสียดสีเยอะ
โกนขนแบบรีบ ๆ โดยไม่ใช้ครีมหรือเจลช่วยลดการเสียดสี
ผิวแห้ง เพราะไม่ได้ทามอยส์เจอไรเซอร์หลังโกน
เกาผิวแรง ๆ หรือใส่เสื้อผ้าที่รัดแน่น ทำให้เกิดการระคายเคืองเพิ่ม
วิธีดูแลผิวหลังโกนขน ให้คันน้อยลง หายไวขึ้น
1. ประคบเย็นช่วยปลอบผิว
หลังโกนขนแล้วรู้สึกคันหรือแสบ ให้ใช้ ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็น หรือเจลเย็น ประคบบริเวณที่โกนประมาณ 5-10 นาที วิธีนี้ช่วยลดอาการบวมแดงและคันได้ดีมาก
2. ทามอยส์เจอไรเซอร์ เติมความชุ่มชื้นให้ผิว
ผิวแห้งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้คันหลังโกนขน แนะนำให้ใช้โลชั่นหรือเจลว่านหางจระเข้ ทาหลังโกนทันที เพื่อช่วยปลอบประโลมผิวและลดการระคายเคือง
3. หลีกเลี่ยงการเกา หรือถูผิวแรง ๆ
เข้าใจเลยว่าคันแล้วอยากเกา แต่ ยิ่งเกาก็ยิ่งระคายเคืองมากขึ้น และอาจทำให้ผิวเกิดแผลเล็ก ๆ ได้ ทางที่ดีพยายาม หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวบริเวณที่โกนมากเกินไป
4. เลือกเสื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่รัดแน่นเกินไป
เสื้อผ้าที่รัดแน่นหรือเนื้อผ้าหยาบ อาจทำให้ผิวเสียดสีและคันมากขึ้น ควรเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี และไม่รัดแน่นเกินไป โดยเฉพาะถ้าโกนขนบริเวณขา หรือรักแร้
5. หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือสารระคายเคือง
หลังโกนขน ผิวจะบอบบางกว่าปกติ ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารระคายเคืองแรง ๆ เพราะอาจทำให้ผิวแสบและคันมากขึ้น
โกนขนแบบไหนให้ผิวสบาย ไม่คัน ไม่แสบ ต้องเริ่มจากตรงไหน ?
ถ้าไม่อยากให้โกนขนแล้วคันอีก ลองทำตามวิธีเหล่านี้ก่อนโกนขน จะช่วยลดอาการระคายเคืองและทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น เพราะการเตรียมผิวที่ดีตั้งแต่ก่อนโกน จะช่วยลดแรงเสียดสี ลดโอกาสเกิดขนคุด และช่วยให้ขนที่ขึ้นใหม่ดูเรียบเนียน ไม่เป็นตอแข็งจนทำให้คันยุบยิบ แถมยังทำให้ผิวรู้สึกสบายขึ้นหลังโกน ไม่ต้องมาคอยทาครีมแก้คันทีหลังอีกด้วย!
1. ใช้ใบมีดโกนที่คมและสะอาด
ใบมีดโกนที่ทื่อ หรือใช้งานมานาน อาจทำให้ผิวเกิดการเสียดสีมากขึ้น ควรเปลี่ยนใบมีดเป็นประจำ และทำความสะอาดใบมีดก่อนใช้ทุกครั้ง
2. โกนขนหลังอาบน้ำ
อาบน้ำอุ่นช่วยให้ขนอ่อนตัวลง ทำให้โกนได้ง่ายขึ้น และลดการเสียดสี แนะนำให้โกนขนหลังอาบน้ำประมาณ 5-10 นาที จะช่วยให้ผิวไม่คันหลังโกน
3. ใช้ครีมหรือเจลโกนขน
การโกนขนแบบแห้ง ๆ อาจทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย ควรใช้ครีมหรือเจลโกนขน เพื่อช่วยให้ใบมีดโกนลื่นขึ้น ลดแรงเสียดสี และป้องกันอาการคันหลังโกน
4. โกนไปตามแนวขน ไม่โกนย้อนแนวขน
การโกนย้อนแนวขนทำให้ขนที่ขึ้นใหม่มีปลายที่แหลมคม และอาจทำให้เกิดขนคุด ควรโกนไปตามแนวขนก่อน ถ้าต้องการความเรียบเนียนมากขึ้น ค่อยโกนย้อนเบา ๆ
5. ล้างผิวให้สะอาดหลังโกน และซับผิวเบา ๆ
หลังโกนขน ควรล้างผิวด้วยน้ำอุ่นและสบู่อ่อนโยน จากนั้น ใช้ผ้าสะอาดซับผิวเบา ๆ ไม่ควรถูแรง เพราะอาจทำให้ผิวระคายเคือง
ไม่อยากโกนขน มีวิธีกำจัดขนแบบไหนที่น่าลองอีก ?
โกนขนบ่อย ๆ จนเริ่มเบื่อ? ขนขึ้นไวเป็นตอ แถมบางทีคันยุบยิบจนน่ารำคาญ ถ้าเบื่อการโกนที่ต้องทำซ้ำ ๆ แถมยังต้องมาระวังขนคุด ผิวระคายเคือง หรือขนแข็งเป็นตอ ลองมาหาวิธีอื่นที่ช่วยให้ผิวเรียบเนียนได้นานขึ้น และไม่ต้องกังวลกับขนที่ขึ้นมาใหม่เร็วเกินไปดีกว่า ที่สำคัญ! วิธีพวกนี้ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น ไม่ต้องเสียเวลามาโกนขนทุกวัน! มาดูกันว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณที่สุด
1. แว็กซ์ขน – เนียนกริ๊บ อยู่ได้นานหลายสัปดาห์
แว็กซ์เป็นหนึ่งในวิธีกำจัดขนที่ให้ผลลัพธ์นานกว่าการโกน เพราะมันดึงขนออกมาทั้งรากเลยทีเดียว ทำให้ขนขึ้นใหม่ช้าลง ผิวยังคงเรียบเนียนได้นานถึง 3-6 สัปดาห์ แต่ต้องแลกมากับความรู้สึกจึ๊ก ๆ ตอนดึงขนออก ถ้าทนได้ก็ถือว่าคุ้มมาก นอกจากนี้ แว็กซ์ยังช่วยให้ขนที่ขึ้นใหม่บางลงเรื่อย ๆ แต่ก็ต้องดูแลผิวให้ดีเพราะอาจเกิดขนคุดได้ง่าย
เหมาะกับใคร : คนที่อยากให้ขนขึ้นช้า และรับได้กับความรู้สึกจี๊ด ๆ ตอนดึงแว็กซ์
2. ครีมกำจัดขน – ง่าย เร็ว ไม่เจ็บตัว
ใครที่อยากกำจัดขนแบบไม่ต้องทนเจ็บ ครีมกำจัดขนอาจเป็นทางออก ทาไว้แค่ไม่กี่นาทีแล้วเช็ดออก ขนก็หลุดตามไปด้วย แต่ผลลัพธ์อาจอยู่ได้แค่ไม่กี่วันถึงหนึ่งสัปดาห์ ใกล้เคียงกับการโกน แต่ผิวจะเนียนกว่าหน่อยเพราะไม่มีตอแข็ง ๆ ให้กวนใจ ที่สำคัญ ควรทดสอบก่อนใช้ เพราะบางคนอาจแพ้สารเคมีในครีมได้
เหมาะกับใคร : คนที่อยากกำจัดขนแบบไม่เจ็บ และต้องการวิธีที่ทำง่าย
3. เลเซอร์กำจัดขน – อยากจบปัญหาขนกวนใจต้องลอง
ถ้าอยากให้ขนบางลงแบบถาวร หรือขนหายไปเลยแบบระยะยาว การทำเลเซอร์ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ วิธีนี้ช่วยลดจำนวนขน และทำให้ขนเส้นเล็กลงเรื่อย ๆ จนแทบมองไม่เห็น แต่ต้องทำต่อเนื่องประมาณ 6-8 ครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน ข้อดีคือไม่ต้องมากังวลเรื่องขนไปอีกนาน ข้อเสียคือต้องใช้เวลาและมีค่าใช้จ่าย แต่ถ้าคิดว่าคุ้ม ก็น่าลองอยู่เหมือนกัน
เหมาะกับใคร : คนที่อยากลดการขึ้นของขนในระยะยาว
4. เครื่องกำจัดขนไฟฟ้า – ดึงกันไปให้สุด ขนขึ้นช้ากว่าเดิม
เครื่องกำจัดขนไฟฟ้าทำงานคล้ายกับการถอน แต่แทนที่จะถอนทีละเส้น มันดึงออกมาพร้อมกันหลายเส้น วิธีนี้ช่วยให้ขนขึ้นใหม่ช้าลง และขนที่ขึ้นใหม่มักจะบางลงเรื่อย ๆ แต่ข้อเสียคือ อาจรู้สึกเจ็บจี้ด ๆ ตอนใช้งาน โดยเฉพาะครั้งแรก ๆ ถ้าไม่กลัวความรู้สึกจี๊ด ๆ นิดหน่อย วิธีนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี
เหมาะกับใคร : คนที่มีขนน้อย และอยากกำจัดขนแบบเนียนกริบ
5. กำจัดขนด้วยวิธีธรรมชาติ – อาจต้องใช้เวลาหน่อย แต่ก็เวิร์ก
สำหรับคนที่อยากลองวิธีแบบธรรมชาติ ไม่ต้องพึ่งสารเคมี อาจใช้สูตรกำจัดขนจากของที่หาได้ง่าย เช่น น้ำตาลผสมน้ำผึ้ง (สูตรชูก้าแว็กซ์) หรือขมิ้นผสมโยเกิร์ตที่ช่วยให้ขนอ่อนลงและหลุดง่ายขึ้น แม้จะไม่เห็นผลทันที แต่ถ้าทำสม่ำเสมอ ขนอาจขึ้นช้าลงและบางลงได้
เหมาะกับใคร : คนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะเป็นวิธีที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ลดโอกาสเกิดการระคายเคือง
อาการคันแบบไหนที่ควรระวัง ?
ปกติแล้ว อาการคันหลังโกนขนมักจะหายได้เองภายใน 2-5 วัน แต่ถ้ามีอาการเหล่านี้ ควรรีบดูแลเป็นพิเศษ
1. คันเพราะผิวแห้ง – เจอกันบ่อย แต่แก้ได้ง่าย
หลังจากกำจัดขน ผิวอาจสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้แห้งตึงและคัน วิธีแก้คือ ทาโลชั่นหรือเจลว่านหางจระเข้ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้ผิว หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์หรือกลิ่นน้ำหอมแรง ๆ เพราะอาจทำให้ระคายเคืองหนักกว่าเดิม
อาการที่มักเจอ :
ผิวรู้สึกแห้ง ๆ ตึง ๆ
คันแต่ไม่มีผื่นแดงหรือบวม
วิธีป้องกัน :
ทาครีมหรือโลชั่นหลังการกำจัดขน
ใช้สบู่หรือครีมอาบน้ำที่อ่อนโยนต่อผิว
2. คันเพราะขนคุด – เจ้าปัญหาที่ทำให้ผิวไม่เรียบ
ขนคุดเกิดขึ้นเมื่อขนที่ขึ้นใหม่ไม่สามารถโผล่พ้นผิวหนังได้ ทำให้เกิดตุ่มเล็ก ๆ และอาการคัน บางครั้งอาจมีรอยแดงร่วมด้วย วิธีแก้คือ สครับผิวเบา ๆ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพื่อช่วยให้ขนขึ้นได้ตามปกติ แต่ถ้าคันมากหรือมีตุ่มอักเสบ ควรใช้ครีมที่ช่วยลดการอักเสบแทน
อาการที่มักเจอ :
คันและมีตุ่มเล็ก ๆ ขึ้นตามผิว
บางครั้งมีขนติดอยู่ใต้ผิวหนัง
วิธีป้องกัน :
สครับผิวเป็นประจำเพื่อป้องกันขนคุด
หลีกเลี่ยงการโกนขนย้อนแนวเส้นขน เพราะจะทำให้ขนคุดง่ายขึ้น
3. คันเพราะการแพ้ครีมกำจัดขนหรือแว็กซ์
ถ้าใช้ครีมกำจัดขนหรือแว็กซ์ แล้วคันหนักผิดปกติ อาจเป็นเพราะแพ้สารเคมีบางอย่างในผลิตภัณฑ์ วิธีแก้คือ หยุดใช้ทันที และล้างออกให้สะอาด จากนั้นใช้ครีมบำรุงผิวหรือเจลว่านหางจระเข้เพื่อลดการระคายเคือง หากอาการไม่ดีขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
อาการที่มักเจอ :
คันมากผิดปกติหลังใช้ผลิตภัณฑ์
ผิวแดง แสบ หรือเป็นผื่น
วิธีป้องกัน :
ทดสอบผลิตภัณฑ์กับผิวบริเวณเล็ก ๆ ก่อนใช้จริง
เลือกผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่มีสารเคมีรุนแรง
4. คันเพราะติดเชื้อ – แบบนี้ไม่ควรมองข้าม
หากหลังจากกำจัดขนแล้วรู้สึกคันมาก มีตุ่มแดง หรือแผลอักเสบ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ วิธีแก้คือ หลีกเลี่ยงการแกะหรือเกา และทำความสะอาดผิวให้ดี หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบหาทางรักษาเพื่อป้องกันการลุกลาม
อาการที่มักเจอ :
คันร่วมกับตุ่มแดง หรือมีหนอง
ผิวอักเสบและเจ็บเมื่อสัมผัส
วิธีป้องกัน :
ใช้อุปกรณ์กำจัดขนที่สะอาด
หลีกเลี่ยงการสัมผัสผิวหลังการกำจัดขนเพื่อป้องกันเชื้อโรค
การแก้ปัญหาโกนขนแล้วคัน สามารถทำได้หลายวิธีและหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือการทำเลเซอร์กำจัดขน ซึ่งเป็นวิธีเดียวที่สามารถกำจัดขนได้อย่างถาวร เพราะพลังของเลเซอร์จะถูกส่งลงไปทำลายรากขนได้โดยตรง จึงทำให้เส้นขนอ่อนแอและหลุดออกได้ง่ายอีกทั้งยังเป็นวิธีที่สามารถลดอาการคันได้จากต้นเหตุ มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้การทำเลเซอร์ขนยังเป็นวิธีที่ช่วยแก้ปัญหารักแร้หนังไก่ รูขุมขนอักเสบแถมยังช่วยลดการเกิดขนใหม่ได้อีกด้วยครับ
Facebook : https://www.facebook.com/lotteclinic8/
Inbox : m.me/lotteclinic8
Line Official : https://lin.ee/aA680qy
Youtube : youtube.com/c/lotteclinic
Instagram : instagram.com/lotteclinic/
Tiktok : tiktok.com/@lotteclinic
Hotline : 088-555-3421