75 จำนวนผู้เข้าชม |
คุณแม่หลังคลอด อยากลดพุงแบบเห็นผลไว? ลอตเต้มีคำตอบ!
ขอแสดงความยินดีกับคุณแม่มือใหม่ทุกท่านนะครับ! หลังจากที่ผ่านช่วงเวลาสุดพิเศษมาแล้ว หลายคนอาจจะเริ่มกังวลกับ “พุงหลังคลอด” กันใช่ไหม? ไม่ต้องตกใจไปครับ เพราะเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน แต่แน่นอนว่า ไม่มีใครอยากให้พุงย้วย พุงหย่อนคล้อยอยู่แบบนี้ตลอดไปใช่ไหมล่ะ? วันนี้แอดเลยมารวม วิธีลดพุงหลังคลอดที่ได้ผลไว มาให้แล้วครับ!
พุงหลังคลอด เกิดจากอะไร ?
Mommy Belly หรือ พุงหลังคลอด เกิดขึ้นจากการสะสมไขมันในช่วงตั้งครรภ์ และการขยายตัวของมดลูกที่ทำให้ผิวหน้าท้องเกิดการเปลี่ยนแปลง เมื่อคลอดลูกแล้ว มดลูกจะค่อย ๆ หดตัวลง แต่ในบางกรณีกล้ามเนื้อหน้าท้องอาจจะยังไม่คืนสู่สภาพเดิม ทำให้เกิดพุงย้วยและผิวหย่อนคล้อย
สาเหตุที่พุงหลังคลอดไม่ยุบไว
หลังคลอด คุณแม่หลายคนอาจสังเกตว่าหน้าท้องยังดูบวมอยู่ แม้ว่าลูกน้อยจะออกมาลืมตาดูโลกแล้วก็ตาม ซึ่งบางคนอาจต้องใช้เวลานานกว่าพุงจะยุบกลับมาใกล้เคียงเดิม สาเหตุที่ทำให้พุงหลังคลอดไม่ยุบเร็วมีหลายปัจจัย ซึ่งเราสามารถทำความเข้าใจได้จากข้อมูลต่อไปนี้
1. มดลูกยังไม่เข้าที่
ในช่วงที่ตั้งครรภ์ มดลูกขยายใหญ่ขึ้นหลายเท่าเพื่อรองรับลูกน้อย พอคลอดแล้ว มดลูกจะค่อย ๆ หดตัวกลับสู่ขนาดปกติ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5 - 6 สัปดาห์ หรือมากกว่านั้นในบางคน ดังนั้น แม้ว่าจะคลอดแล้ว แต่หน้าท้องยังดูป่องอยู่ ไม่ใช่เพราะไขมันอย่างเดียว แต่เป็นเพราะมดลูกยังคงมีขนาดใหญ่ และต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว
2. กล้ามเนื้อหน้าท้องแยกตัว (Diastasis Recti)
ระหว่างตั้งครรภ์ ผนังกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ช่วยพยุงลำตัวและอวัยวะภายในจะถูกยืดออก เพื่อรองรับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นและการขยายตัวของมดลูก บางครั้งกล้ามเนื้อส่วนนี้อาจแยกออกจากกัน และไม่สามารถหดกลับมาแนบสนิทได้เหมือนเดิม ทำให้หน้าท้องดูหย่อนคล้อย แม้ว่าจะลดน้ำหนักลงแล้วก็ตาม
3. ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง
หลังคลอด ฮอร์โมนหลายตัวในร่างกายจะปรับระดับใหม่ ฮอร์โมนบางชนิดที่เกี่ยวข้องกับการเผาผลาญไขมันอาจลดลง ทำให้ระบบเผาผลาญทำงานช้าลงกว่าปกติ ส่งผลให้ไขมันสะสมบริเวณหน้าท้องลดลงได้ยากขึ้น นอกจากนี้ ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความเครียดยังสามารถกระตุ้นให้ร่างกายเก็บไขมันส่วนเกินไว้ได้อีกด้วย
4. การรับประทานอาหารเพื่อบำรุงน้ำนม
คุณแม่หลายคนจำเป็นต้องกินอาหารมากขึ้นเพื่อบำรุงร่างกายและเสริมสร้างน้ำนมให้ลูกน้อย แต่บางครั้งอาจเผลอรับประทานมากเกินไป หรือเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีสูง เช่น ขนมหวาน ของทอด หรืออาหารมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมไขมันบริเวณหน้าท้องมากขึ้น
5. การพักผ่อนน้อยและความเครียด
การเลี้ยงลูกแรกเกิดอาจทำให้คุณแม่พักผ่อนน้อย ส่งผลต่อระบบเผาผลาญในร่างกาย ยิ่งนอนดึก พักผ่อนไม่เพียงพอ ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนที่กระตุ้นให้รู้สึกหิว และลดการเผาผลาญพลังงาน ทำให้ไขมันสะสมเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ความเครียดยังมีผลให้ร่างกายสะสมไขมันในช่องท้องมากกว่าปกติ
6. จำนวนครั้งในการตั้งครรภ์
สำหรับคุณแม่ที่มีลูกหลายคน ร่างกายต้องผ่านกระบวนการตั้งครรภ์และคลอดหลายครั้ง ซึ่งอาจทำให้การฟื้นตัวของหน้าท้องใช้เวลานานขึ้นกว่าการตั้งครรภ์ครั้งแรก
7. อายุของคุณแม่
อายุที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อความสามารถในการเผาผลาญไขมันของร่างกาย หากคุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงวัย 30 ปลาย ๆ หรือ 40+ ร่างกายอาจใช้เวลาฟื้นตัวนานขึ้น และอาจต้องใช้ตัวช่วยในการกระชับสัดส่วนมากกว่าคนที่ตั้งครรภ์ตอนอายุน้อย
8. ไขมันสะสมช่วงตั้งครรภ์
ระหว่างตั้งครรภ์ ร่างกายมีแนวโน้มที่จะสะสมไขมันเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นพลังงานสำรองสำหรับคุณแม่และลูกน้อย แต่หลังคลอด ระบบเผาผลาญของร่างกายอาจยังไม่กลับมาเป็นปกติ ทำให้ไขมันที่สะสมไว้ยังไม่ถูกเผาผลาญออกไปได้ง่าย
9. ขาดการออกกำลังกาย
หลายคนอาจไม่สามารถออกกำลังกายได้ทันทีหลังคลอด โดยเฉพาะคุณแม่ที่ผ่าคลอด ซึ่งต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่าปกติ แต่หากไม่ได้เริ่มขยับร่างกายหรือออกกำลังกายที่เหมาะสมเลย ไขมันส่วนเกินที่สะสมในช่วงตั้งครรภ์ก็อาจยังคงอยู่ และทำให้พุงไม่ยุบลง
วิธีลดพุงหลังคลอดให้เห็นผลไว
พุงหลังคลอดเป็นปัญหาที่คุณแม่หลายคนกังวล เพราะแม้ว่าจะคลอดลูกแล้ว แต่หน้าท้องก็ยังไม่กลับมาแบนราบเหมือนก่อนตั้งครรภ์ แต่ไม่ต้องห่วงไปครับ เพราะพุงหลังคลอดสามารถลดได้ ถ้าเลือกวิธีที่เหมาะสมและทำอย่างสม่ำเสมอ วันนี้แอดจะพามาดู วิธีลดพุงหลังคลอดให้เห็นผลไว แบบเข้าใจง่าย ทำตามได้จริง ไปดูกันเลย
1. ออกกำลังกายให้ตรงจุด
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานดีขึ้น และช่วยให้กล้ามเนื้อหน้าท้องกลับมากระชับเร็วขึ้น สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอด ไม่ควรหักโหม แนะนำให้เริ่มจากการออกกำลังกายเบา ๆ เช่น
เดินเร็ว : กระตุ้นการเผาผลาญ
ท่าซิทอัพ-แพลงก์เบา ๆ : ช่วยกระชับกล้ามเนื้อหน้าท้อง
โยคะ หรือพิลาทิส : ฟื้นฟูร่างกายและช่วยให้มดลูกหดตัวเร็วขึ้น
แต่สำหรับคุณแม่ที่ ผ่าคลอด ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเริ่มออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงท่าที่กดทับหน้าท้องในช่วงแรก
2. ควบคุมอาหาร เลือกกินให้ดี
หลายคนเข้าใจผิดว่าการลดพุงต้องอดอาหาร แต่จริง ๆ แล้ว คุณแม่หลังคลอดต้องได้รับสารอาหารเพียงพอ โดยเฉพาะถ้ายังให้นมลูก แค่ต้องเลือกกินให้ถูกต้อง เช่น
โปรตีนสูง : เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ ถั่ว ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ
ผักและผลไม้ : ไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ลดอาการท้องอืด
ไขมันดี : อะโวคาโด ถั่ว น้ำมันมะกอก ช่วยให้ร่างกายเผาผลาญดีขึ้น
ควรเลี่ยงของทอด ของมัน และน้ำตาลสูง เพราะทำให้ไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น
3. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยเผาผลาญดีขึ้น
น้ำมีส่วนช่วยให้ร่างกายเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้น และยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย คุณแม่ที่ให้นมลูกยิ่งต้องดื่มน้ำเยอะ ๆ เพราะการดื่มน้ำช่วยให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้ดีขึ้น และยังช่วยให้หน้าท้องยุบลงเร็วขึ้นอีกด้วย แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างน้อย 2-3 ลิตรต่อวัน และควรเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือคาเฟอีนสูง เพราะอาจทำให้ร่างกายกักเก็บไขมันได้มากขึ้น
4. ใช้ตัวช่วยอย่าง "สายรัดหน้าท้อง"
สายรัดหน้าท้องเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่คุณแม่หลายคนเลือกใช้ เพราะช่วยพยุงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่หย่อนคล้อยให้กลับมากระชับเร็วขึ้น และยังช่วยลดอาการปวดหลังที่เกิดจากการอุ้มลูกหรือให้นมลูกได้ดี แต่ควรรอให้แผลคลอดหายดีก่อน โดยเฉพาะคุณแม่ที่ผ่าคลอด ไม่ควรรัดแน่นเกินไป เพราะอาจทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
5. การให้นมลูก ช่วยลดพุงได้จริง!
รู้หรือไม่? การให้นมลูกเป็นวิธีช่วยลดพุงแบบธรรมชาติ เพราะในช่วงที่ให้นมลูก ร่างกายจะเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น และฮอร์โมนที่หลั่งออกมาจะช่วยให้มดลูกหดตัวเร็วขึ้น ส่งผลให้หน้าท้องยุบลงเร็วกว่าปกติ
6. อยู่ไฟช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญ
การอยู่ไฟเป็นวิธีที่คุณแม่ไทยนิยมใช้กันมานาน เพราะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือดและช่วยให้มดลูกเข้าที่เร็วขึ้น อีกทั้งความร้อนจากการอยู่ไฟยังช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย และทำให้ไขมันสะสมในหน้าท้องลดลงได้เร็วขึ้น
7. โปรแกรมดูแลรูปร่างหลังคลอด
สำหรับคุณแม่หลังคลอดที่อยากให้หน้าท้องกลับมาเรียบเนียน กระชับ ไม่หย่อนคล้อย แต่ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน วันนี้เรามี 3 โปรแกรมยอดฮิต ที่ช่วยให้พุงยุบเร็วขึ้น และเห็นผลจริงแบบปลอดภัยมาแนะนำ
1. โปรแกรม RF (Radio Frequency) : คลื่นวิทยุช่วยกระชับสัดส่วน
โปรแกรม RF หรือ คลื่นวิทยุความถี่สูง เป็นตัวช่วยเด็ดที่ช่วย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว พร้อมสลายไขมัน ไปในตัว คลื่นวิทยุจะเข้าไปทำให้ชั้นไขมันเกิดความร้อน และค่อย ๆ ถูกขับออกจากร่างกายผ่านระบบน้ำเหลือง
วิธีการทำงานของโปรแกรม RF
ใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง ส่งพลังงานเข้าไปใต้ชั้นผิว
ช่วยเพิ่มอุณหภูมิใต้ผิว กระตุ้นการไหลเวียนเลือดและระบบน้ำเหลือง
เร่งกระบวนการเผาผลาญไขมัน ให้ไขมันแตกตัวและถูกขับออกจากร่างกาย
กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวแน่นและยืดหยุ่นขึ้น
การเปลี่ยนแปลงหลังจากทำโปรแกรม RF
กระชับหน้าท้อง ลดความย้วยของพุง
ช่วยลดเซลลูไลต์ ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
ช่วยให้ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น ผิวดูสุขภาพดี
ทำได้บ่อย ไม่ต้องพักฟื้น
เหมาะกับใคร ?
คุณแม่ที่ต้องการลดไขมันแบบค่อยเป็นค่อยไป
คนที่มีผิวหย่อนคล้อย ต้องการให้หน้าท้องเฟิร์มขึ้น
คนที่ต้องการตัวช่วยเสริมการลดน้ำหนัก
2. โปรแกรม Nano Coolsculpting : แช่แข็งไขมันให้ตายแบบถาวร
โปรแกรม Nano Coolsculpting เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ความเย็นระดับติดลบ เข้าไปทำลายเซลล์ไขมันโดยตรง ทำให้ไขมันค่อย ๆ ตายไป และถูกขับออกจากร่างกายอย่างถาวร
วิธีการทำงานของโปรแกรม Nano Coolsculpting
ใช้หัวเครื่องมือปล่อยความเย็น -10°C ไปยังชั้นไขมัน
เซลล์ไขมันจะถูกแช่แข็งจนตาย โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อรอบข้าง
ร่างกายจะค่อย ๆ กำจัดเซลล์ไขมันที่ตายออกไปเอง ผ่านระบบน้ำเหลือง
ลดไขมันแบบถาวร โดยไม่ต้องผ่าตัด
ข้อดีของโปรแกรม Nano Coolsculpting
สลายไขมันเฉพาะจุดได้แบบถาวร
ไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น
ไม่ต้องฉีด ไม่ต้องผ่าตัด
เห็นผลชัดเจนใน 2 - 3 เดือน
เหมาะกับใคร ?
คุณแม่ที่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด และต้องการลดแบบถาวร
คนที่อยากลดพุงโดยไม่ต้องออกกำลังกายหนัก
คนที่ต้องการกระชับสัดส่วนให้ดูสมส่วนมากขึ้น
3. โปรแกรมสลายไขมัน : ตัวช่วยลดพุง ลดไขมันสะสม
หลังคลอดแล้ว พุงย้วย พุงป่อง ไม่เข้าที่เป็นเรื่องที่คุณแม่หลายคนต้องเจอ ซึ่งสาเหตุหลักมาจาก ไขมันสะสมช่วงตั้งครรภ์ และ ผิวหนังที่ขยายตัวระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งกว่าจะกลับมาหุ่นเฟิร์มเหมือนเดิมอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน ถ้าใครรู้สึกว่าการออกกำลังกาย หรือควบคุมอาหารอาจยังไม่พอ โปรแกรมสลายไขมัน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณแม่หลังคลอด ลดพุง ลดไขมันเฉพาะจุดได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องผ่าตัด
วิธีการทำงานของโปรแกรมสลายไขมัน
ทำให้เซลล์ไขมันแตกตัว จนกลายเป็นไขมันส่วนเกินและถูกกำจัดออกทางระบบน้ำเหลือง
ลดการสะสมของไขมันใหม่ ที่เป็นสาเหตุให้พุงกลับมาย้วย
ช่วยให้ผิวดูกระชับขึ้น ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย
ข้อดีของโปรแกรมสลายไขมัน
ลดพุง ลดไขมันสะสมที่หน้าท้อง
ช่วยให้พุงยุบไวขึ้น หลังคลอด
ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
ช่วยให้ผิวกระชับขึ้นในระดับหนึ่ง
โปรแกรมสลายไขมัน เหมาะกับใคร ?
คุณแม่ที่เพิ่งคลอดและอยากให้พุงยุบโดยใช้เวลาไม่นาน
คนที่มีไขมันสะสมบริเวณพุง แต่ไม่เยอะมาก
คนที่ลองควบคุมอาหารและออกกำลังกายแล้ว แต่พุงยังไม่ลด
คนที่อยากลดไขมันเฉพาะจุดแบบไม่ต้องผ่าตัด
ลดพุงหลังคลอด ใช้เวลานานแค่ไหน ?
โดยทั่วไป พุงหลังคลอดจะยุบลงภายใน 1 - 2 เดือน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลาถึง 6 เดือน – 1 ปี ขึ้นอยู่กับ การออกกำลังกาย การให้นม และการควบคุมอาหาร หากให้ต้องการเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลังทำ ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับร่างกายตัวเอง
สรุปแล้ว คุณแม่หลังคลอดลดพุงได้ยังไงบ้าง ?
การลดพุงหลังคลอด เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและวินัย การออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร และดูแลตัวเองให้ถูกต้อง จะช่วยให้พุงยุบโดยใช้เวลาไม่นาน และถ้าต้องการตัวช่วยที่เห็นการเปลี่ยนแปลงไม่นาน เทคโนโลยีความงามก็เป็นอีกทางเลือกที่ปลอดภัย
หากคุณแม่ยังไม่แน่ใจว่าวิธีไหนเหมาะกับตัวเอง สามารถเข้ามาปรึกษาที่ลอตเต้คลินิกได้เลย! เรามีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ที่พร้อมให้คำแนะนำ และช่วยดูแลให้คุณกลับมามั่นใจในรูปร่างอีกครั้งครับ!
Facebook : https://www.facebook.com/lotteclinic8/
Inbox : m.me/lotteclinic8
Line Official : https://lin.ee/aA680qy
Youtube : youtube.com/c/lotteclinic
Instagram : instagram.com/lotteclinic/
Tiktok : tiktok.com/@lotteclinic
Hotline : 088-555-3421